วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

วันนี้มาทำความรู้จักกับคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์กันนะคะ

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
     ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ( Computer Network ) หมายถึง การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปเข้าด้วยกันด้วยสายเคเบิล หรือสื่ออื่นๆ ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถรับส่งข้อมูลแก่กันและกันได้ในกรณีที่เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลาง เราเรียกคอมพิวเตอร์ที่เป็นศูนย์กลางนี้ว่า โฮสต์ (Host) และเรียกคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เข้ามาเชื่อมต่อว่า ไคลเอนต์ (Client)


ชนิดของเครือข่ายคอมพิวเตอร์

1. LAN (Local Area Network)

2. MAN (Metropolitan Area Network)

3. WAN (Wide Area Network)

4. CAN (Controller Area Network)

5. PAN (Personal Area Network)

6. SAN (Storage Area Network)

วันนี้เราจะทำความรู้จักกับ 3 ชนิดแรกนะคะ

1. LAN (Local Area Network)
    ระบบเครือข่ายแบบ LAN หรือระบบเครือข่ายเฉพาะบริเวณ โดยปกติแล้วจะเป็นระบบเครือข่ายส่วนตัว (Private Network) นั่นคือองค์กรที่ต้องการใช้งานเครือข่าย ทำการสร้าง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันเป็นระบบเครือข่ายในระยะใกล้ ๆ ซึ่งจะช่วยให้เกิดประโยชน์แก่องค์กรและธุรกิจต่างๆ มากมาย เช่น - สามารถแบ่งเบาการประมวลผลไปยังเครื่องต่างๆ เฉลี่ยกันไป - สามารถแบ่งกันใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์ ซีดีรอมไดร์ฟ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นต้น
- สามารถแบ่งกันใช้งานซอฟต์แวร์และข้อมูลหรือสารสนเทศต่างๆ รวมทั้งทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้เพียงที่เดียว
- สามารถวางแผนหรือทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มได้ แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้กันก็ตาม - สามารถใช้ในการติดต่อกัน เช่น ส่งจดหมายทางอิเลคทรอนิคส์ หรือการส่งเสียงหรือภาพทางอิเลคทรอนิคส์ เป็นต้น
- ช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมขององค์กร

ชนิดการเชื่อมต่อของเครือข่าย LAN

     การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายเฉพาะบริเวณ (LAN) นั้น จุดประสงค์หลักอย่างหนึ่งก็คือการแบ่งกันใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ โดยทรัพยากรเหล่านั้นอาจเป็นหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ความเร็วสูง ฮาร์ดดิสก์ เครื่องพิมพ์ หรือแม้แต่อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะเชื่อมอยู่กับคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง
วิธีการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อจัดสรรการใช้งานทรัพยากรในระบบเครือข่ายสามารถจำแนกได้เป็น 3 รูปแบบ คือ เครือข่ายแบบ Peer-to-Peer เครือข่ายแบบ Server-based เครือข่ายแบบ Client/Server

2. MAN (Metropolitan Area Network)
         เป็นระบบเครือข่ายที่มีขนาดอยู่ระหว่าง Lan และ Wan เป็นระบบเครือข่ายที่ใช้ภายในเมืองหรือจังหวัดเท่านั้น การเชื่อมโยงจะต้องอาศัยระบบบริการเครือข่ายสาธารณะ จึงเป็นเครือข่ายที่ใช้กับองค์การที่มีสาขาห่างไกลและต้องการเชื่อมสาขาเหล่านั้นเข้าด้วยกัน เช่น ธนาคาร เครือข่ายแวนเชื่อมโยงระยะไกลมาก จึงมีความเร็วในการสื่อสารไม่สูง เนื่องจากมีสัญญาณรบกวนในสาย เทคโนโลยีที่ใช้กับเครือข่ายแวนมีความหลากหลาย มีการเชื่อมโยงระหว่างประเทศด้วยช่องสัญญาณดาวเทียม เส้นใยนำแสง คลื่นไมโครเวฟ คลื่นวิทยุ สายเคเบิล

3. WAN (Wide Area Network)
           เป็นระบบเครือข่ายที่ติดตั้งใช้งานอยู่ในบริเวณกว้าง เช่น ระบบเครือข่ายที่ติดตั้งใช้งานทั่วโลก เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่อยู่ห่างไกลกันเข้าด้วยกัน อาจจะต้องเป็นการติดต่อสื่อสารกันในระดับประเทศ ข้ามทวีปหรือทั่วโลกก็ได้ ในการเชื่อมการติดต่อนั้น จะต้องมีการต่อเข้ากับระบบสื่อสารขององค์การโทรศัพท์หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทยเสียก่อน เพราะจะเป็นการส่งข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารกันโดยปกติมีอัตราการส่งข้อมูลที่ต่ำและมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาด การส่งข้อมูลอาจใช้อุปกรณ์ในการสื่อสาร เช่น โมเด็ม (Modem) มาช่วย

ประโยชน์ของเครือข่าย
          
ใช้ทรัพยากรร่วมกันได้
    อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายนั้น ถือว่าเป็นทรัพยากรส่วนกลางที่ผู้ใช้ในเครือข่ายทุกคน สามารถใช้ได้โดยการสั่งงานจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของ ตัวเองผ่านเครือข่ายไปยังอุปกรณ์นั้น เช่น มีเครื่องพิมพ์ส่วนกลางในเครือข่าย เป็นต้น ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย

ใช้โปรแกรมร่วมกัน
     ผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถที่จะรันโปรแกรมจาก เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง เช่น โปรแกรม Word, Excel, Power Point ได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องจัดซื้อโปรแกรม สำหรับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง เป็นการประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อ และยังประหยัดเนื้อที่ในหน่วยความจำด้วย
 ทำงานประสานกันเป็นอย่างดี
          ก่อนที่เครือข่ายจะเป็นที่นิยม องค์กรส่วนใหญ่จะใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เช่น เมนเฟรม หรือมินิคอมพิวเตอร์ ในการจัดการงาน และข้อมูลทุกอย่างในองค์กร แต่ปัจจุบันองค์กรสามารถกระจายงานต่าง ๆ ให้กับหลาย ๆ เครื่อง แล้วทำงานประสานกัน เช่น การใช้เครือข่ายในการจัดการระบบงานขาย โดยให้เครื่องหนึ่งทำหน้าที่จัดการการเกี่ยวกับใบสั่งซื้อ อีกเครื่องหนึ่งจัดการกับระบบสินค้าคงคลัง เป็นต้น

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์ข้อสอบ O-net 5 ข้อ


   สวัสดีค่ะ วันนี้นะคะเราจะมาวิเคราะห์ข้อสอบโอเน็ตไว้เพื่อสำหรับใครที่มีความสนใจในวิชาคอมพิวเตอร์และอยากรู้การเฉลยข้อสอบอย่างละเอียด วันนี้เราได้นำมาให้เพื่อนๆศึกษากัน 5 ข้อค่ะ 

    ลิขสิทธิ์โปรแกรมประเภทรหัสเปิดอนุญาตให้ผู้ใช้ทําอะไรได้บ้าง
ก. นําโปรแกรมมาใช้งานโดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์
ข. ทดลองใช้โปรแกรมก่อนถ้าพอใจจึงจ่ายค่าลิขสิทธิ์
ค. แก้ไขปรับปรุงโปรแกรมเองได้
1. ข้อ ก และ ค
2. ข้อ ข และ ค
3. ข้อ ข. อย่างเดียว
4. ข้อ ก. อย่างเดียว
    เฉลย 1 Open Source คือ ตัวโปรแกรม ซอฟต์แวร์ ที่เกี่ยวกับ การ ออกแบบและพัฒนา วัตถุประสงค์หลักคือ เป็นตัวโปรแกรมที่ ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้นําไปใช้งานและอาจพัฒนาตัวโปรแกรมต่อได้ ส่วนใหญ่ Open Source จะเป็นโปรแกรมที่แจกฟรี จึงกลายเป็นที่ นิยมกันอย่างแพร่หลายและรวดเร็วสำหรับในบ้านเรา ที่นิยมใช้งานOpen Source นั้น มีตั้งแต่เว็บ ในกลุ่มที่จัดทำโดยบุคคล เช่นพวก เว็บแฟนคลับ เว็บ community ต่างๆไปจนถึงเว็บในรูปแบบ บริษัท องค์กร ห้างร้าน ส่วนตัวโปรแกรม Open Source ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Joomla ต่างๆ Word Press Drupal PHP nuke SMF PHPbb เป็นต้น เพิ่มเติม โปรแกรม Freeware เป็นโปรแกรมที่ได้รับการเสนอไม่มีต้นทุนและชั้นธรรมดาของโปรแกรม ประยุกต์ที่มีให้ สําหรับการดาวน์โหลดและใช้ระบบปฏิบัติการทั่วไป

    ห้องสมุดแห่งหนึ่งต้องการพัมนาระบบยืมหนังสือโดยสามารถ บันทึกข้อมูลการยืม หนังสือลงบนบัตรอิเลคโทรนิกส์โดยไม่ต้อง เขียนด้วยมือระบบนี้ควรใช้เทคโนโลยีในข้อใด
1. Smart Card
2. Fingerprint
3. Barcode
4. WiFi
    เฉลย ข้อ 3. Barcode เพราะ ข้อ 1. Smart Card คือ บัตรอิเลคทรอนิคส์ ที่ใช้ทางานหลายๆ อย่าง ได้อย่างรวดเร็ว มี ประสิทธิภาพเช่น บัตรประจาตัวประชาชนที่เป็น สมาร์ทคาร์ด (Smart Card) คือ บัตรที่เก็บข้อมูลต่างๆ ของตัว เจ้าของบัตรไว้โดยสามารถทราบหรือค้นหาข้อมูลต่างๆ ของเจ้าของบัตรนั้นๆ ได้จากบัตร ข้อ 2. Fingerprint คือ ระบบที่ต้องใช้ลายนิ้วมือ ของบุคคลที่ได้รับการอนุญาต หรือบุคคลที่ได้ทาการบันทึกลายนิ้วมือ ลงไว้ในตัวเครื่อง สแกนลายนิ้วมือ ที่ใช้ควบคุมระบบการทางานต่างๆ แล้วซึ่งหากบุคคลใดไม่ได้มีการบันทึกลายนิ้วมือลงไว้ใน ตัวเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ก็จะไม่สามารถเข้าไปใช้งานระบบที่ต้องมีการสแกนลายนิ้วมือนี้ได้ส่วนระบบที่นาการ สแกนลายนิ้วมือเข้ามาใช้ในการควบคุม ข้อ4. WiFi 8nv ชุดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สามารถใช้ได้กับมาตรฐานเครือข่าย คอมพิวเตอร์แบบไร้สาย (WLAN) ซึ่งอยู่บนมาตรฐาน IEEE 802.11 เดิมทีวายฟายออกแบบมาใช้สาหรับอุปกรณ์พกพาต่างๆ และใช้เครือข่าย LAN เท่านั้น แต่ปัจจุบันนิยมใช้วายฟาย เพื่อต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยอุปกรณ์พกพาต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่าแอค เซสพอยต์และบริเวณที่ระยะทาการของแอคเซสพอยต์ครอบคลุมเรียกว่า ฮอตสปอต แต่... ข้อ3. Barcode เป็นรหัส แทนตัวเลขและตัวอักษร ใช้เพื่ออานวยความสะดวกให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถอ่านรหัสข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยใช้ เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Barcode Scanner) ซึ่งจะทางานได้รวดเร็วและช่วยลดความผิดพลาดในการคีย์ข้อมูลได้มาก ซึ่ง จะได้ผลดีมากในการตรวจสอบสินค้า

     ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบัติการที่นามาใช้บนอุปกรณ์พกพาประเภท Smartphone
1. Ubumtu 
2. Iphone os
3. Android
4. Symbian
    เฉลย ข้อ 1. Ubumtu เพราะ 1. Ubumtu เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่เป็นระบบปฏิบัติการแบบเปิด ซึ่งมีพื้นฐานบนลินุกซ์ดิสทริบิวชันที่พัฒนาต่อมาจากเดเบียน การพัฒนาสนับสนุนโดยบริษัทCanonical Ltd ซึ่ง เป็นบริษัทของนายมาร์ก ชัทเทิลเวิร์ธ ชื่อของดิสทริบิวชันนั้นมาจากคาในภาษาซูลู และภาษาโคซา (ภาษาใน แอฟริกาใต้) ว่า Ubuntu ซึ่งมีความหมายในภาษาอังกฤษคือ "humanity towards others" อูบุนตูต่างจากเดเบียนตรงที่ออกรุ่นใหม่ทุก 6 เดือน และแต่ละรุ่นจะมีระยะเวลาในการสนับสนุนเป็นเวลา 18 เดือน รุ่นปัจจุบันของ Ubuntu คือ 14.04 ส่วนอีก 3 ข้อที่เหลือ คือ ข้อ 2 3 และ 4 เป็น ระบบปฏิบัติการสาหรับโทรศัพท์

    ไฟล์ประเภทใดในข้อต่อไปนี้เก็บข้อมูลในลักษณะตัวอักษร 
1. ไฟล์เพลง MP 3 (mp 3)
2. ไฟล์รูปประเภท JPEG (jpeg)
3. ไฟล์แสดงผลหน้าเว็บ (html)
4. ไฟล์วีดีโอประเภท Movie (movie)
    เฉลย ข้อ 3. ไฟล์แสดงผลหน้าเว็บ (html) เพราะ ข้อ 1.มีการเก็บข้อมูลในลักษณะของแฟ้มเสียง ข้อ 2.มีการเก็บข้อมูลในลักษณะของแฟ้มภาพ ข้อ3. HTML เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ในรูปแบบหนึ่งที่ใช้ สาหรับสร้างหน้าเว็บ (Web Page) เพื่อเก็บข่าวสารข้อมูลที่ต้องการในรูปของ เอกสารไฮเปอร์เท็กซ์ (Hypertext) ที่มีคุณสมบัติสามารถเชื่อมโยงหน้าเว็บหนึ่งไปยังหน้าเว็บอื่นๆ ได้ โดยโครงสร้างของHTML จะมีตัวกากับ หรือแท็ก (Tag) สาหรับใช้ในการควบคุมการแสดงผลของ ข้อความ รูปภาพ ตาราง และวัตถุอื่นๆ ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ดังนั้นจึงมีการเก็บข้อมูล ในลักษณะตัวอักษร. ข้อ4.มีการเก็บข้อมูลในลักษณะของวีดีโอและแฟ้มภาพ

     ระบบขนส่งข้อมูลหรือ BUS ที่ CPU เลือกว่าจะส่งข้อมูลหรือรับ ข้อมูลจากอุปกรณ์ใดไปที่ใดคือBUSในข้อใด
1. Address Bus
2. Control Bus
3. Bus System
4. Macro Bus
   เฉลย ข้อที่ 1 Address Bus เป็นบัสรองรับข้อมูลที่ CPU เลือกว่าจะส่งข้อมูลหรือรับข้อมูลจากอุปกรณ์ใดไปที่ใด


   เป็นยังไงกันบ้างคะ กับข้อสอบโอเน็ตที่หลายๆคนอาจคิดว่ามันยากแต่ความเป็นจริงมันอาจไม่ได้ยากอย่างที่ใครๆคิดหากทุกคนตั้งใจศึกษานะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.slideshare.net/forfern/o-net-45417876?related=2